เราจะออกเดินทางไปที่ พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต วัดภูทอก หินสามวาฬ เมืองรอง ไม่เป็นรองใคร
สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนครับ
ครั้งนี้ผมจะพาไปเที่ยวกันต่อที่ จ.บึงกาฬ ต่อจากกระทู้ที่แล้วที่พาเพื่อนๆไปเที่ยว จ.อุดรธานี ครับ https://pantip.com/topic/38995355 ซึ่งยังอยู่ในกิจกรรม “ม่วนคักวันธรรมดา หรรษาอีสานบ้านเฮา” (อุดรธานี-หนองคาย-บึงกาฬ) ที่จัดโดยผู้ใหญ่ใจดี Pantip x amazing ไทยเท่ ททท. x AirAsia ครับ
*รูปทั้งหมดในกระทู้ถ่ายด้วยมือถือ Xiaomi Mi 9 SE และ Process ผ่านโปรแกรม Lightroom บนคอมพิวเตอร์ครับ
ตื่นขึ้นมากับเช้าวันที่ 2 อันแสนสดใส ผมต้องพาตัวเองลุกขึ้นมาจากเตียงนุ่ม แอร์เย็นๆ เมื่อคืนหลับสบายมากเลยครับ ที่โรงแรม เดอ ปริ้นเซส จ.อุดรธานี ผมเห็นแพลนเที่ยววันนี้แล้ว น่าออกไปเที่ยว ไปถ่ายรูปมากๆครับ แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้องเนอะ เริ่มจากการเติมพลังมื้อเช้าด้วย breakfast อร่อยๆ จากโรงแรมก่อนเลย และพลาดไม่ได้กับอาหารเช้าขึ้นชื่อของอุดร นั่นก็คือ ข้าวเปียก (ไหนข้าวน้าาา555) ซึ่งเป็นกวยจั๊บญวน เส้นเด้งๆ อร่อยๆ เมื่ออิ่มแล้วเราก็เริ่มออกเดินทางไป จ.บึงกาฬกันเลย ที่แรกที่เราจะไป นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต แค่ฟังชื่อก็น่าสนใจแล้วครับ เมื่อไปถึง ก็มีการต้อนรับพวกเราด้วยน้ำอัญชันมะนาว หวานเย็น ชื่นใจสุดๆ





บรรยากาศโดยรอบ เป็นหมู่บ้านของคนในพื้นที่ ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตชุมชนชาวอีสานแบบดั้งเดิม ผ่านภาพเขียนสีรูปพญานาคบนผนัง บนกำแพง แถมให้เราได้ถ่ายรูปชิคๆแนวๆด้วย เรียกได้ว่าเป็น หมู่บ้าน Street Art แห่งบึงกาฬเลยก็ว่าได้ ซึ่งมี 22 จุด ที่ให้เพื่อนๆได้เดินเที่ยว ถ่ายรูป เช็คอิน กับภาพเขียนสีรูปพญานาคหลากหลายสไตล์ สีสันสดใส ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เลยครับ





ในหมู่บ้านยังมีวัดเล็กๆ คือ วัดโพธิ์ศรีมงคล ซึ่งเป็นที่สักการบูชาของคนในชุมชน และทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งมีพระสงฆ์อยู่ประจำเพียง 4 รูป ซึ่งในทุกๆเช้าจะมีพระเดินบิณฑบาต ให้ชาวบ้านได้มีโอกาสทำบุญใกล้ๆด้วย





เดินต่อมา เราจะเห็นถึงวิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่สัมพันธ์กับงานจักสาน ซึ่งผมตื่นตาตื่นใจกับการดูการสานกระติบข้าวเหนียว ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมที่มากด้วยภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น และเป็นรายได้เสริมในเวลาว่างของคนในชุมชมนี้ด้วย และบริเวณรอบๆก็ยังมี Street Art ผลงานศิลปะ แถมด้วยวิวทุ่งนาสีเขียวๆ มองแล้วสบายตา สบายใจมากเลยครับ






หลังจากเดินเที่ยวมาเยอะแล้ว ขอแวะเข้าบ้าน พักกินข้าวเที่ยงเติมพลังก่อนนะครับ มื้อนี้อิ่มอร่อยกับอาหารท้องถิ่นของชาวอีสาน รสชาติแซ่บๆ นัวๆ พร้อมกับบรรยากาศกินข้าวชิลๆ เหมือนอยู่ที่บ้าน ทุกคนเป็นกันเองมากครับ และต่อด้วยของหวานเย็นๆ ชื่นใจ กับลอดช่องน้ำกะทิ ที่คนในหมู่บ้านทำกันเองด้วย อร่อยไม่แพ้เจ้าดังๆ เลยครับ




เมื่อกินเสร็จแล้ว เราก็เที่ยวชมในบ้านเรือนไม้กันต่อเลยครับ ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านส่วนใหญ่จะยังคงให้เห็นถึงความสมัยเก่าอยู่ บริเวณชั้นสองจะมีที่ให้ได้ถ่ายรูปกันชิคๆ หลายมุม ให้อารมณ์เหมือนย้อนอดีตเลยครับ





เห็นท้องฟ้ามืดครึ้มมาแต่ไกล เราก็รีบออกเดินทางกันต่อไปยัง วัดภูทอก (บันไดไม้แห่งความศรัทธา) ระหว่างทางฝนตกหนักมาก แต่พอถึงแล้วฝนก็หยุดตกพอดี นับเป็นความโชคดีของผมจริงๆครับ ผมพร้อมเดินขึ้นไปชมวิวสวยๆ ข้างบนแล้ว ผมแนะนำให้พกน้ำดื่มขึ้นไปด้วย และการแต่งกายควรสุภาพเรียบร้อย เพราะ เป็นวัดครับ





ทางขึ้นส่วนใหญ่ของที่นี่ จะเป็นบันไดไม้ ที่ค่อนข้างชันเอาเรื่องเลยทีเดียวครับ ถ้าแดดออก อาจจะทำให้ร้อน เหนื่อยเพิ่มขึ้นอีกได้ เพราะ ทางเดินไม่ค่อยมีร่มไม้ แต่ตอนผมไปเป็นช่วงเย็น ๆ ฟ้าครึ้มๆ ไม่ร้อน โชคดี!!!(หรือเปล่าไม่รู้) แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่พระอาทิตย์เลยครับ555





เดินขึ้นเรื่อยๆ มาถึงชั้นที่ 3 ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น (แต่เปิดให้ขึ้นสูงสุดแค่ 6 ชั้น เพราะ ข้างบนเป็นป่า ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์เลื้อยคลาน เช่น งู เยอะมาก) เมื่อเดินขึ้นไป แล้วมองลงมาข้างล่างเนี่ย ผมนี่เสียวท้องไปหมดเลยครับ ฮ่าๆๆ แต่ดีตรงมีที่นั่งพัก ให้ได้พักดูวิวเขียวๆ สวยๆแปป





เพื่อให้ชมทัศนียภาพของภูทอกได้ชัดเจนมากขึ้น ให้เดินตรงทางเดินที่เป็นไม้ที่สร้างไว้รอบๆภู เมื่อดูจากภาพ อาจน่ากลัว แต่ของจริงไม้ดูแข็งแรง ปลอดภัยอยู่ครับ แต่ถ้าฝนตกอาจจะมีลื่นบ้าง ระวังกันด้วยนะครับ!!! แต่วิวที่นี่ unseen ตรึงตาตรึงใจมากครับ





แล้วเราก็เดินมาถึงยัง จุด Highlight ที่ควรมายืนถ่ายรูปเช็คอินกันแล้วครับ จุดที่ผมยืนอยู่ จะสามารถมองวิวได้รอบเลย วิวสวยอลังการมาก บรรยากาศลมพัดเบาๆ เย็นสบาย เงียบสงบ นี่แหละที่ตามหา รักบึงกาฬ





ตอนกลับขาลงพวกเราเดินคนละเส้นทางกับทางขาขึ้น เพื่อที่จะได้เดินดูวิวอีกฝั่งนึงของภูทอก เราจะต้องเดินผ่านซอกหินแคบๆ มืดๆ น่าตื่นเต้นดี ได้บรรยากาศผจญภัยไปอีกแบบ ส่วนวิวก็สวยไม่แพ้ขาขึ้นเลยครับ





พอเดินลงถึงข้างล่างก็แวะถ่ายรูป ที่เจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ เป็นเจดีย์สวยๆที่อยู่ท่ามกลางสวนกว้างๆ ให้ถ่ายรูป ภูทอกด้านล่างนี้ก็สวยไปอีกแบบหนึ่งครับ




เที่ยวมาทั้งวัน ก็ได้เวลาพักแล้วครับ ในคืนนี้พวกเราพักกันที่โรมแรมเดอะวัน เป็นโรงแรมชื่อดังในจังหวัดบึงกาฬเลยก็ว่าได้ครับ ด้วยความที่เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ ห้องกว้าง สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม และอยู่ติดกับห้าง Tesco Lotus แถมเตียงนุ่มๆ อีก ฟินเลย




หลังจากที่เราได้ล้างหน้าล้างตา เก็บของเข้าห้องเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ได้แวะไปที่ถนนคนเดินของบึงกาฬ ไปดูว่าบรรยากาศที่นี่จะเป็นอย่างไร แต่ด้วยเราไปถึงช้า ตอนนั้นเวลา 2 ทุ่ม หลายๆ ร้านก็เริ่มปิดกันแล้ว อาจทำให้ไม่เห็นบรรยากาศปกติ พวกเราก็เลยมาถ่ายรูปตรงป้ายสุดเขตแดนสยามแทน อิอิ





เดียวเล่ามาต่อใน comment ล่างนะครับ พอดีพิมพ์ครบ 10,000 ตัวอักษรละ ฮ่าๆ